พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร หรือรัชกาลที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 ณ เมืองไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมนี พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ซึ่งประชาชนชาวไทยจดจำด้วยความจงรักภักดีและความอาลัย เนื่องจากทรงสวรรคตเมื่อยังทรงพระเยาว์
พระราชประวัติ
ขณะทรงพระเยาว์
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 ณ เมืองไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระองค์ทรงมีพระเชษฐภคินีคือสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา และพระอนุชา คือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) พระองค์ทรงเจริญพระชันษาในต่างประเทศและใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงศึกษาวิชาการหลายแขนง โดยเฉพาะด้านกฎหมายและรัฐศาสตร์ เพื่อเตรียมพระองค์ในการทรงงานรับใช้ประเทศชาติในอนาคต
การขึ้นทรงราชย์
ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ทรงประกาศสละราชสมบัติเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พุทธศักราช 2477 รัฐสภาในขณะนั้นได้มีมติอัญเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล ซึ่งทรงเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ โดยมีพระปรมาภิไธยว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระองค์เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเมื่อมีพระชนมายุเพียง 8 พรรษา และทรงครองราชย์เป็นเวลา 12 ปี จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 ขณะมีพระชนมายุ 20 พรรษา
การเสด็จนิวัตพระนคร
ครั้งแรก (พ.ศ. 2481) พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติในขณะที่ยังทรงพระเยาว์และพำนักอยู่ต่างประเทศ โดยในระยะเริ่มแรกได้มีการตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพื่อปฏิบัติภารกิจทางการเมืองการปกครองแทนพระองค์ กระทั่งในปี พุทธศักราช 2481 พระองค์เสด็จพระราชดำเนินนิวัตพระนครเป็นครั้งแรก นับเป็นวาระสำคัญที่พสกนิกรชาวไทยได้มีโอกาสเฝ้าชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด การเสด็จนิวัตครั้งแรกนี้ ทรงพำนักอยู่ในประเทศไทยเพียงระยะสั้น เนื่องจากยังทรงศึกษาวิชาการอยู่ในทวีปยุโรป การเสด็จกลับครั้งนี้จึงมีความหมายในเชิงการสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชน และยังเป็นโอกาสสำคัญที่ทรงเริ่มสัมผัสพระราชภารกิจเบื้องต้นในบ้านเมืองของพระองค์เอง
ครั้งที่สอง (พ.ศ. 2488) การเสด็จนิวัตพระนครครั้งที่สองเกิดขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง ในเดือนธันวาคม พุทธศักราช 2488 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลได้เสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี ศรีสังวาลย์ และสมเด็จพระอนุชา (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในเวลาต่อมา) การเสด็จครั้งนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะทรงเจริญพระชนมายุแล้ว และอยู่ในวัยที่เริ่มจะทรงประกอบพระราชภารกิจด้านต่าง ๆ ด้วยพระองค์เอง นับเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนไทยทั่วประเทศได้แสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างพร้อมเพรียงกัน ขบวนเสด็จมีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จอย่างล้นหลามทั่วเส้นทาง
นอกจากนี้ ยังเป็นวาระที่พระองค์ได้เสด็จไปยังสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทรงงานด้านการศึกษาและสังคม รวมทั้งทรงฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น จนถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ก่อให้เกิดความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์หนุ่มผู้ทรงพระเมตตากับพสกนิกรของพระองค์อย่างลึกซึ้ง
การเสด็จสวรรคต
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจไปทั่วแผ่นดิน เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน ณ พระที่นั่งบรมพิมาน พระบรมมหาราชวัง ขณะมีพระชนมายุเพียง 20 พรรษา การสวรรคตครั้งนั้นเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าโศกอาลัยแก่ประชาชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง มีประชาชนหลั่งไหลมาร่วมถวายความอาลัยอย่างเนืองแน่นนับแสนคน สะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และความเคารพศรัทธาที่ประชาชนมีต่อพระองค์อย่างหาที่เปรียบมิได้





พระราชกรณียกิจ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร แม้ว่าจะทรงครองราชย์ในช่วงเวลาที่ไม่ยาวนาน แต่พระราชกรณียกิจหลายประการยังคงเป็นคุณูปการสำคัญต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะด้านการศึกษา การแพทย์ การบำเพ็ญพระราชกุศล และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน
การสนับสนุนการศึกษาและวิทยาการ
พระองค์ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาในฐานะรากฐานของการพัฒนาประเทศ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับสูงทั้งในและต่างประเทศ ทุนเหล่านี้มีส่วนสำคัญต่อการสร้างบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขา เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ นิติศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงส่งเสริมแนวคิดการเรียนรู้ที่ทันสมัย โดยทรงสนับสนุนการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งยังทรงส่งเสริมการเรียนภาษาต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยสามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนความรู้กับนานาประเทศ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศในระยะยาว
อีกทั้ง พระองค์ยังมีพระราชดำริให้สถาบันการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐร่วมมือกันผลิตองค์ความรู้และงานวิจัย เพื่อใช้ในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ความมุ่งมั่นเหล่านี้แสดงถึงพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลที่ต้องการให้การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเจริญก้าวหน้าของชาติ


พระราชกรณียกิจด้านอื่น ๆ
ด้านการปกครอง
ทรงครองราชสมบัติในช่วงวัยเยาว์ จึงมอบหมายให้คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ปฏิบัติราชการแทนในเรื่องการบริหารบ้านเมือง แต่แม้พระองค์ยังทรงพระเยาว์ พระองค์ก็ทรงมีส่วนร่วมในการพิจารณาเรื่องสำคัญบางประการ ทรงแสดงความสนพระทัยในงานด้านการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องการวางรากฐานทางกฎหมายและการพัฒนาระบบราชการให้มีประสิทธิภาพ
ด้านการศาสนา
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ทรงให้ความเคารพต่อพระพุทธศาสนาและทรงสนับสนุนกิจการทางศาสนา พระองค์ทรงเสด็จไปวัดและทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสงเคราะห์วัดและพระสงฆ์ ทรงสนับสนุนการศึกษาและเผยแพร่พระธรรมคำสอน เพื่อให้ประชาชนมีหลักธรรมและจริยธรรมในการดำรงชีวิต
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
พระองค์ทรงสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” โดยทรงสนับสนุนการพัฒนาการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งในด้านการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์และการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาลให้ทัดเทียมสากล
การบำเพ็ญพระราชกุศลและบรรเทาทุกข์
แม้จะทรงพำนักในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ แต่พระองค์ยังคงทรงติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด และทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือสถานการณ์สงคราม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎร
การเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในยามสงคราม
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระองค์ทรงมีพระราชสาส์นและพระราชดำรัสให้กำลังใจพสกนิกรชาวไทย พร้อมทั้งพระราชทานความช่วยเหลือแก่ครอบครัวทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พระราชกรณียกิจเหล่านี้สะท้อนถึงพระเมตตาและความห่วงใยที่มีต่อประชาชนทุกหมู่เหล่า
การวางรากฐานเพื่ออนาคตของชาติ
แม้จะทรงครองราชย์ได้ไม่นาน แต่พระราชกรณียกิจของพระองค์ได้วางรากฐานสำคัญหลายด้าน ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นแนวทางให้รัชกาลต่อ ๆ มาสานต่อเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน พระองค์จึงนับเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยจดจำถึงพระวิริยะและพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้
รายการวิดีโอ/สารคดี
พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
สารคดีเทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ 8 (10 ตอน)
รวมเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญในรัชกาลที่ 8
รายงานพิเศษและสารคดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ 9 มิถุนายน
รัชกาลที่ 8 ในทัศนะของ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ 100 ปี 20 กันยายน 2568

แบบตราสัญลักษณ์ ประกอบด้วย อักษรพระปรมาภิไธย อ.ป.ร. อันหมายถึง อานันทมหิดล ปรมราชาธิราช พื้นอักษรสีทอง ภายในกรอบวงกลมพื้นสีแดงอันเป็นสีของวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ ภายในกรอบประดับเพชร 12 ดวง หมายถึง ทรงดำรงสิริราชสมบัติ 12 ปี พื้นหลังสีน้ำเงินเป็นสีของขัตติยกษัตริย์ เบื้องบนประดิษฐานพระมหาพิชัยมงกุฎประกอบด้วยเลข 8 อันเป็นเลขมหามงคลประจำรัชกาล เบื้องหลังพระมหาพิชัยมงกุฎประดิษฐานพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แสดงถึงพระบรมราชอิสริยยศของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช ขนาบด้วยสัปตปฏลเศวตฉัตร เบื้องล่างมีเลข 100 หมายถึง วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ 100 ปี แพรแถบขอบขลิบทองพื้นสีหงชาด (ชมพู) ปลายแถบเป็นรูปเศียรพระโค สื่อถึงปีฉลูนักษัตรอันเป็นปีพระบรมราชสมภพ มีข้อความว่า “เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ 100 ปี” เบื้องล่างสุดมีข้อความว่า “20 กันยายน 2568”
ขอบคุณข้อมูลจาก :
-
สำนักงานหอจดหมายเหตุแห่งชาติ – ข้อมูลพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ
- สำนักงานหอสมุดแห่งชาติ – พระบรมฉายาลักษณ์และเอกสารสำคัญ รัชกาลที่ 8
-
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี – พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
-
กรมศิลปากร – ข้อมูลพระราชพิธีและภาพประวัติศาสตร์
-
กรมประชาสัมพันธ์ – ภาพและข่าวพระราชกรณียกิจ
-
สถาบันพระปกเกล้า – บทความและเอกสารทางประวัติศาสตร์
-
Thai PBS – สารคดีและวิดีโอเกี่ยวกับรัชกาลที่ 8
- ChatGPT (OpenAI) – https://chat.openai.com